เด้ง ! 3 ตร.ภ.9 แล้ว หลังถูก “ตร.โรงพักกะพ้อ” ร้องเป็นชุดอุ้มเรียกค่าไถ่
1 min readพิมพ์ไทยออนไลน์ // รองโฆษก ตร.เผย บก.สส.ภ.9 สั่งย้าย 3 ด.ต. และตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ตามที่ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ตร.โรงพักกะพ้อ ร้องเรียนว่า เป็นชุดอุ้มเรียกค่าไถ่แล้ว ยืนยัน หากผิดจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด ย้ำ คำสั่ง ผบ.ตร. ที่ห้าม ตร.ทำผิดเสียเอง
จากกรณีที่ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 1 ใน 6 ผู้เสียหาย กรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 อุ้มขึ้นรถ เรียกค่าไถ่ 120,000 บาท และต้องจำนำรถเก๋งส่วนตัว 1 คัน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา แต่เมื่อไปขอไถ่รถคืนกลับถูกปฏิเสธ พร้อมโดนขู่ว่าหากไม่ยอมจบเรื่องจะเล่นงานและยัดยาเสพติดใส่รถเก๋ง เพื่อให้หลุดออกจากวงการตำรวจ จนครอบครัวและญาติที่เป็นตำรวจด้วยกันทนไม่ได้ กระทั่งเข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาและแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ไปแล้วนั้น
วานนี้ (12พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในเบื้องต้นทราบว่า บก.สส.ภ.9 มีคำสั่งให้ ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.9 และ ด.ต.พิรชัช หวั้นเส้ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.สส.ภ.9 พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ได้มีหนังสือร้องเรียน ด.ต.ธีระยุทธกับพวก เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตอบคำถามสังคมได้
“หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีการให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องผู้ที่กระความผิดอยู่แล้ว อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล และจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอดว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่สังคม โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ หากพบว่าตำรวจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด รวมทั้ง หากพบว่า ผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจ ไม่กำกับดูแลความประพฤติ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ก็จะถูกพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคมในการอำนวยความยุติธรรม.
Cr. : ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/south/detail/9620000045441