กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจเยี่ยมติดตามผลงาน นวัตกรรมการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ พร้อมจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้สนใจรับทุนฯ ครั้งที่ 2 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่
1 min readกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจเยี่ยมติดตามผลงาน นวัตกรรมการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ พร้อมจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้สนใจรับทุนฯ ครั้งที่ 2 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่
กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เยี่ยมชมและติดตามผลงานนวัตกรรมการแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมจัดสัมมนา คลินิกกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ภาคเหนือ) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 คุณสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมคณะจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าเยี่ยมชมและติดตามผลงานนวัตกรรมด้านการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ภายใต้กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผศ.นพ.กฤษณ์ ขวัญเงิน รองคณบดีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผศ.ดร.ชาย รังสิยากูล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และรศ.ดร.พญ.ศิริอนงค์ นามวงศ์พรหม ผู้ช่วยคณบดีด้านนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมให้การต้อนรับและหารือแนวทางการต่อยอดผลงานนวัตกรรมการแพทย์ดิจิทัล เพื่อต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี และก่อให้เกิดการพัฒนาดิจิทัลของประเทศที่ครอบคลุมในทุกด้าน โดยกองทุนฯ ได้เยี่ยมชมและติดตามผลงานโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1. โครงการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ทางไกลเพื่อขยายการเข้าถึงการให้บริการประชาชน
2. โครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน(5G District) จังหวัดเชียงใหม่ (โครงการ 5G smart health)
3. โครงการนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะผ่านการกระตุ้นสมอง
ซึ่งปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในวงการแพทย์มากขึ้น เพื่อตอบยุทธศาสตร์ของชาติในการใช้เทคโนโลยี 5G มาพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทย และเป็นตัวอย่างในการสร้างระบบสาธารณสุขด้านเทเลเม็ดดิซีนแพลตฟอร์ต (telemedicine platform) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงทำโครงการขนาดใหญ่ร่วมกัน 2 โครงการ คือ โครงการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ทางไกลเพื่อขยายการเข้าถึงการให้บริการประชาชน และโครงการนำร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบ สำหรับให้บริการประชาชน (5G District) จังหวัดเชียงใหม่ (โครงการ 5G Smart Health)
ปัจจุบันโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ที่มีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้ามารับการรักษาพยาบาลอาศัยในเขตจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งส่วนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ดังนั้น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จึงนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ด้วยเทคโนโลยีจำลองภาพเสมือนจริงสามมิติด้วยรถพยาบาล อัจริยะ (AR technology with Smart ambulance) พร้อมบูรณาการแว่นตาอัจฉริยะ (AR consulting glasses) ผ่านเครือข่าย 5G ในการให้คำปรึกษาและรักษาผู้ป่วยบนรถ Smart ambulance แบบ real time ระหว่างโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลประจำอำเภอ ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ร่วมโครงการ จำนวน 20 แห่ง ทำให้ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่าน Web Application ได้อย่างครบวงจรโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
โดยผลลัพธ์ของทั้ง 2 โครงการจะเป็นการสร้าง telemedicine platform ที่บูรณาการระหว่างระบบการแพทย์ทางไกลของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลประจำอำเภอในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน และมีการนำ AR technology และ 5G เทคโนโลยี มาเพิ่มประสิทธิภาพรถพยาบาลฉุกเฉิน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์บนรถพยาบาลฉุกเฉินสามารถปรึกษาและรักษาผู้ป่วยบนรถพยาบาลฉุกเฉินขณะส่งตัวผู้ป่วย ร่วมกับแพทย์เฉพาะทาง ที่ประจำอยู่ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ส่งผลให้โรคฉุกเฉินและโรควิกฤติ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดสมองตีบ เป็นต้น สามารถได้รับการรักษาได้ทันทีโดยแพทย์เฉพาะทางในแต่ละโรค ระหว่างส่งตัวผู้ป่วยทำให้ลดอัตราการตาย และภาวะแทรกซ้อน
โครงการนี้สำเร็จจะเป็นระบบต้นแบบที่ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด กล่าวคือการเข้ารับการรักษาภาวะฉุกเฉินใน โรงพยาบาลใดในจังหวัดเชียงใหม่ และหรือโรงพยาบาลในภาคเหนือตอนบน (ที่ร่วมโครงการ) ผู้ป่วยทุกท่านจะได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางเฉพาะโรค ผ่านระบบที่เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งทำให้ผลการรักษาพยาบาลมีความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนโครงการนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะผ่านการกระตุ้นสมอง เกิดจากการวิจัยและพัฒนาร่วมกันระหว่างคณะผู้วิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้ชื่อ “MoveAlong” เป็นการพัฒนานวัตกรรมช่วยเหลือการเดินในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีภาวะการเดินลำบาก ไม่สามารถช่วยได้ด้วยยา และการรักษาอื่นๆ ทีมนักวิจัยได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ช่วยเหลือการเดินที่สร้างเสียงจังหวะกระตุ้นการก้าวขาสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันที่มีปัญหาในการเดิน สามารถเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการผ่าน Application บนสมาร์ทโฟน โดยมีการออกแบบอัลกอลิทึมให้สามารถบันทึกสัญญาณจากเซ็นเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับสภาวะการเดินของผู้ป่วยเพื่อผลิตจังหวะเสียง (Tempo) ให้สอดคล้องกับจังหวะการเดินของผู้ป่วย ซึ่งสามารถปรับจังหวะการเดินเฉพาะตัวของผู้ป่วยได้ พกพาง่าย ติดตัวได้ตลอด เบื้องต้นมีการใช้งานจริงกับผู้ป่วยที่ศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคลินิกเอกชนชีวาแคร์ (ศูนย์เวชศาสตร์ดูแลและฟื้นฟูผู้สูงอายุ)
เพื่อเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับปรุงพัฒนาระบบให้สะดวกต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้ป่วยได้มากที่สุด ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีนี้ก็จะถูกนำไปเชื่อมโยงกับระบบการให้บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามยุทธศาสตร์ในการมุ่งสู่การเป็น Digital Hospital เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ป่วยและประชาชนในอนาคต
และเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดสัมมนา คลินิกกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ภาคเหนือ) ครั้งที่ 2 ณ ห้องปารีส โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับกองทุนฯ ตั้งแต่การขอรับทุน กระบวนการพิจารณาข้อเสนอ การกลั่นกรองโครงการ จนกระทั้งการลงนามในสัญญา รวมทั้งอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเป็นการสร้างไอเดียในการเขียนโครงการเพื่อเสนอขอรับทุน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่สนใจขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ต่อไป โดย นางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน โดย นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบริหารเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร กล่าวเปิดงาน
ภายในงานมีการบรรยายเรื่อง “ภาพรวมของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” โดย นางสาวสิริกาญจน์ สุขผล ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกองทุน การบรรยายเรื่อง “การยื่นเสนอขอรับทุน การพิจารณาข้อเสนอ การกลั่นกรองโครงการ และการลงนามในสัญญา” โดย นายจิรวัฒน์ ใจอารีย์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ กลุ่มบริหารกองทุน กองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการบรรยายเรื่อง “อัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับสร้างไอเดียในการเขียนโครงการเพื่อเสนอขอรับทุน” โดย นายภูวเรศน์ ทรายสมุทร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing Strategy Consulting ปิดท้ายด้วยการประชุมปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อให้คำปรึกษาในการเขียนข้อเสนอโครงการ / กิจกรรม เพื่อขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย เจ้าหน้าที่กองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
การสัมมนาคลินิกกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้จัดขึ้นนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพื่อต้องการให้ทุนสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อันเป็นประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะและไม่เป็นการแสวงหากำไร ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านมีส่วนสำคัญในการเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อนำพาประเทศไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบต่อไป
สำหรับหน่วยงานหรือผู้สนใจในรายละเอียดของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://defund.onde.go.th/ หรือ โทร. 02-142-7575