‘สุชาติ’ มอบการบ้านแรงงานจังหวัดเป็นแกนกลาง ขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงแรงงานสู่พื้นที่
1 min read‘สุชาติ ชมกลิ่น’รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการบูรณาการภารกิจของกระทรวงแรงงานสู่ประชาชนในพื้นที่และชุมชน มอบแนวทางการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 แก่ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการกอง แรงงานจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการบูรณาการภารกิจของกระทรวงแรงงานสู่ประชาชนในพื้นที่และชุมชน โดยมี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแกรนรัชดา ชั้น 5 อาคารธารทิพย์ โรงแรมรามาดา บาย วินแดม แบงคอก เจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอขอบคุณข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานทุกคนที่ได้ขับเคลื่อนนโยบายที่ผมได้มอบไป ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่ผมได้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผมได้ผลักดันงานของกระทรวงแรงงานในหลายด้านตามแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และนโยบายของรัฐบาล โดยร่วมมือกับสถานประกอบการและลูกจ้างในการส่งเสริมแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการแก้ไขปัญหาการว่างงาน
ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีการจัดงาน Job expo เพื่อรวบรวมตำแหน่งงานว่างกว่า 1 ล้านอัตรา ในเดือนแรก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงโครงการจ้างนักศึกษาจบใหม่ co – payment ที่รัฐช่วยออกค่าจ้างครึ่งหนึ่งในการจ้างนักเรียน/นักศึกษาจบใหม่ ให้มีโอกาสได้งานทำมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของโควิด-19 และการส่งเสริมการไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศมีความต้องการแรงงานไทยเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น อิสราเอล ที่เร่งรัดให้ประเทศไทยจัดส่งแรงงานกว่า 2,000 คน
รวมทั้งเร่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อเพิ่ม และปรับเปลี่ยนทักษะให้แก่กำลังแรงงานเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการแรงงานสัมพันธ์เชิงรุกร่วมกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และมีมาตรการช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประกันตน และนายจ้าง โดยลดเงินสมทบเหลือ 2% ทั้งสองฝ่าย รวมถึงมาตรา 39 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนอิสระ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาการจ้างงานให้แก่ผู้ประกอบการ และการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ และการพิจารณาเกี่ยวกับการปล่อยกู้สินเชื่อให้แก่ผู้ประกันตน เป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานหลังจากนี้ ผมอยากจะเน้นย้ำในประเด็นสำคัญ โดยขอให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ ร่วมมือกันขับเคลื่อนโครงการ co – payment พัฒนาศักยภาพและการดำเนินงานของเครือข่ายแรงงาน อาสาสมัครแรงงาน และบัณฑิตแรงงาน จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานทุกจังหวัด
มีการบูรณาการตรวจแรงงานร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พัฒนาระบบ Big data และการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบ ซึ่งถือเป็นแรงงานกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศ และจากแนวโน้มของสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงไปของตลาดแรงงานที่คนสนใจการประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น ทำให้กระทรวงแรงงานต้องหันมาให้ความสำคัญกับแรงงานกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น โดยขอให้เร่งออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อมาคุ้มครองและดูแลสวัสดิการของคนกลุ่มนี้