“บอยคอต” บทเรียนสอนใจ “พีอาร์” เมื่อเลือกสื่อหลักปฏิเสธสื่อออนไลน์
1 min read“บอยคอต” บทเรียนสอนใจ “พีอาร์” เมื่อเลือกสื่อหลักปฏิเสธสื่อออนไลน์
พิมพ์ไทยออนไลน์ // กลายเป็น “กระแสสูง” ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ทั้งฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่ในทีมงานประชาสัมพันธ์ขององค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จำต้องเก็บไว้เป็น “บท
เรียนสอนใจ” เมื่อกลุ่ม “สื่อออนไลน์” ประกาศบอยคอต “ไม่เข้าร่วม” กิจกรรมด้านการประชาสัมพันธ์ของบรรดาองค์กรที่ “เลือกที่รักมักที่ชัง”
เลือกส่งเทียบเชิญเฉพาะ…สื่อหัวสี/สื่อกระแสหลัก เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่วมทำข่าวเชิงท่องเที่ยวในต่างแดน แต่ปฏิเสธที่จะเชิญกลุ่ม “สื่อออนไลน์” เข้าร่วมทริปด้วยเหตุผล “สื่ออย่าง
พวกแก ยังห่างและต่ำชั้นเกินไป” ทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ขององค์ภาครัฐและเอกชน…ส่วนใหญ่ “คิดอย่างนั้นจริงๆ”
ล่าสุด กระแสการ “บอยคอต” นี้ เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดกับงานแถลงข่าวของ ธนาคารกรุงไทย เมื่อช่วงสายของ วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นวันแรกของการเปิดทำงาน
หลังจากที่คนทำงานส่วนมาก “หยุดยาว” เพื่อเฝ้าชมงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวง รัชกาลที่ 10
ปรากฏว่า ในงานแถลงข่าวที่ชื่อ…Press Briefing ในหัวข้อ “เปิดทางลัด SMEs ด้วยตัวช่วยดีๆ จากภาครัฐ” ซึ่งธนาคารกรุงไทย จัดขึ้นที่ Krungthai Innovation Lab ชั้น 3 ธนาคารกรุงไทย
อาคารสำนักงานใหญ่นานาเหนือ เมื่อช่วงเวลา 09.30-11.30 น. ของ วันอังคารที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลับมีสื่อมาร่วมงานฯ ไม่ถึง 10 คน
แม้ในกลุ่มนั้น จะมีบ้างที่เป็น…สื่อกระแสรองอย่าง หนังสือพิมพ์ และ/หรือนิตยสารรายเดือน และรายสะดวก รวมถึง “สื่อออนไลน์” บางค่าย
ทว่า “สื่อออนไลน์” ส่วนใหญ่ซึ่ง ณ วันนี้ มีรวมกันมากกว่า 100 หัว/ค่าย กลับไม่เข้าร่วมงานแถลงข่าว ธนาคารกรุงไทยในช่วงสาย แต่เลือกจะไปร่วมงานแถลงข่าวของ ธนาคารกสิกร ไทย
ในช่วงบ่ายชนิด…เบียดเสียดกันทำข่าว
ทั้งที่ ประเด็นข่าวของ ธนาคารกสิกรไทย ก็ใช่ว่าจะดีกว่าของ ธนาคารกรุงไทยสักเท่าใด
งานแถลงข่าวช่วงบ่ายวันเดียวกันของ ธนาคารกสิกรไทย คือ งานแถลงข่าวพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อสนับสนุนให้ความรู้กับ สตาร์ทอัพไทยที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศเวียดนาม
และรับฟังสัมมนาในหัวข้อ VIETNAM : A NEW GREENFIELD MARKET WITH EXPONENTIAL GROWTH
ในแง่น้ำหนักความสำคัญและคุณค่าของประเด็นข่าวที่จัดแถลงของทั้ง 2 ธนาคาร ถือว่า…ไม่ห่างชั้นกันนัก
แต่ที่ห่างคือ…น้ำหนักการให้ความสำคัญกับ สื่อมวลชน มากกว่า
กล่าวคือ ธนาคารแห่งหนึ่งเชิญสื่อทุกแขนงไปร่วมทริปทำข่าว และท่องเที่ยวในต่างประเทศโดยไม่…“เลือกที่รักมักที่ชัง” ด้วยการเชิญสื่อทุกแขนงที่เคยมาร่วมทำข่าวกันจนคุ้นหน้าคุ้นตา
ขณะที่อีกธนาคาร กลับเลือกเชิญเฉพาะ “สื่อหัวใหญ่” หรือ “ค่ายใหญ่” ปฏิเสธจะเชิญสื่อหัวเล็ก โดยเฉพาะกลุ่ม “สื่อออนไลน์”
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว…ทุกครั้งเวลามีการจัดแถลงข่าวภายในประเทศ ไม่ว่าจะจัดกันในเมืองหลวง หรือต้องสัญจรเดินทางระเหเร่ร่อนไปทำข่าวในต่างจังหวัด ก็ได้ใช้บริการกลุ่ม “สื่อออนไลน์
เหล่านี้” ไปสร้างภาพให้ผู้บริหารระดับสูงได้เห็นผลงานกันเป็นส่วนใหญ่
ปรากฏการณ์ “บอยคอต” ที่กลุ่ม “สื่อออนไลน์” เริ่มพูดคุยและปฏิบัติการเอากับธนาคารกรุงไทยหนนี้น่าจะทำให้ใครอีกหลายคนได้ “ตาสว่าง” กันบ้าง
เพราะเท่าที่ “ความคิดฝังหัว” เรื่องการให้ความสำคัญเฉพาะกับ…สื่อใหญ่สื่อหลัก สื่อดัง และสื่อที่มีอิทธิพล ยังเกิดขึ้นกับฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่ในทีมงานประชาสัมพันธ์ขององค์กรต่างๆ
ทั้งภาครัฐและเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก
ค่ายแบงก์สีม่วง ประกันภัยสีชมพู และอีกมากมายหลายองค์กรธุรกิจ…ส่วนใหญ่ยังคงคิดเช่นนี้จริงๆ
ถึงตรงนี้ ก็อยากเห็นภาพความเป็น “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน” ของเพื่อนสื่อออนไลน์มารวมตัว และประจันหน้ากับบางคน ? บางองค์กร ? ที่มองเห็นคุณค่าความเป็นสื่อมวลชนไม่เท่ากัน
การเริ่มต้น “บอยคอต” ไม่เข้าร่วมทำข่าวของ ธนาคารกรุงไทย น่าจะเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่จะสร้างตัวตน และพลังอำนาจการต่อรองอันกำลังจะกลายเป็น “กระแสสูง” ทั้งในวงการสื่อสารมวล
ชนและองค์กรภาครัฐ และภาคเอกชนนับจากนี้เป็นต้นไป
ขอเพียง “สื่อออนไลน์” ดำรงไว้ซึ่ง “จุดยืน” ของตัวเองให้อยู่เหนือผลประโยชน์ที่ใครบางคน ? บางองค์กร ? พร้อมจะหยิบยื่นงบโฆษณามาสร้างปรากฏการณ์ “งูเห่า” ในวงการสื่อให้ได้
เท่านั้นพอ
หากจำเป็น…พวกเราก็ควรจะมี “องค์กรสื่อกลาง” เพื่อเป็นปากเสียงในการต่อสู้กับอำนาจแห่งผลประโยชน์นี้…อย่างจริงๆ จังๆ !
Cr. : เนตรทิพย์ออนไลน์