ประธานโครงการปรับปรุงอาคาร ริเวอร์ การ์เด้น เปิดใจ หลังเกิดอุบัติเหตุแขนเครนหักใส่หลังคา อาคารอเนกประสงค์ รร ย่านบางรัก ผู้บริหารโครงการไม่นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่เยียวยาทุกครอบครัวทันที อีกทั้งมีวางแผนเยียวยาอย่างต่อเนื่อง (ชมคลิป)

ประธานโครงการปรับปรุงอาคาร ริเวอร์ การ์เด้น เปิดใจ หลังเกิดอุบัติเหตุแขนเครนหักใส่หลังคา อาคารอเนกประสงค์ รร ย่านบางรัก ผู้บริหารโครงการไม่นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่เยียวยาทุกครอบครัวทันที อีกทั้งมีวางแผนเยียวยาอย่างต่อเนื่อง
นายวรพล อุดมโชคปิติ ประธานโครงการปรับปรุงอาคาร ริเวอร์ การ์เด้น เปิดใจกับทีมข่าว ว่า หลังเกิดอุบัติเหตุแขนเครนหักใส่หลังคา อาคารอเนกประสงค์ รร ย่านบางรัก ผู้บริหารโครงการติดต่อผู้ปกครองเด็กที่ได้รับผลกระทบผ่านทางโรงรียนทันทีทั้ง 10 คน ซี่งมีเด็กนักเรียน 1คน ที่ไ้ด้รับบาดเจ็บหนักสุด ต้องพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลเลิศสิน ทีมผู้บริหารไม่นิ่งนอนใจ รุดเยี่ยมพร้อมนำกระช้ามอบให้ผู้ปกครอง และดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่เหลือ 9 คน ให้ความช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายตามอาการที่แพทย์ระบุในใบรับรอง ลดหลั่นตามอาการที่ได้รับบาดเจ็บ
การพบปะพูดคุยกับผู้ปกครอง และผู้บริหารโรงเรียน อีกทั้งพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้ปกครองถึงแนวทางการเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กหลังอาการดีขึ้นตามลำดับ ยังคงพูดคุยกันต่อเนื่อง รวมไปถึงครอบครัวอื่นที่ไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย แต่ยังคงตกอยู่ในสภาวะตกใจ ทางผู้บริหารก็มีการพูดคุยถึงการเยียวยาสภาพจิตใจ โดยจะประสานกรมสุภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ลงมาฟื้นฟูเยียวยาทันที เรียกได้ว่ามีการติดต่อประสานพูดคุยกันต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ทางผู้บริหารรอคำตอบจากผู้ปกครอง และทางโรงเรียนว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่ได้พูดคุย หรือจะมีประเด็นใดเพิ่มเติม รวมไปถึงข้อเสนอแนะอื่นๆ
นอกจากนี้ทีมผู้บริหารมีมติถึงแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเด็กที่ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุดในระยะยาว หลังทีมแพทย์มีใบรับรองว่าเด็กหายเป็นปกติไม่ต้องมาพบแพทย์แล้ว โดยจะให้การดูแลต่อเนื่องอีกเป็นเวลา 1 ปี เพื่อป้องกันการเกิดอาการแทรกซ้อนต้องกลับไปพบแพทย์อีก ซี่งหากเกิดอาการทรกซ้อนต้องรักษาต่อเนื่องเกินกำหนดวลา 1 ปี ที่กำหนดไว้ ก็จะดูแลต่อไปจนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนการซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความสียหายทางโครงการร่างซ่อมแซม คาดว่าไม่เกิน 15 วัน จะใช้การได้ตามปกติ
ส่วนการให้ความช่วยเหลือขณะที่เด็กนักเรียนย้ายสถานที่เรียนนั้น นายสินชัย คุ้มถนอม 1 ในทีมผู้บริหาร บอกว่า ทีมผู้บริหารรู้สึกเป็นห่วงและทำตามคำร้องขอของทางโรงเรียนที่ขอให้สนับสนุนติดเครื่องปรับอากาศขนาด 36000 บีทียู ที่ห้องเรียนทั้ง 15 ห้องๆละ 2 ตัว และที่ห้องสมุดอีก 10 ตัว เป็น 40 ตัว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเด็กนักเรียนและครู ส่วนโปรเจ็กเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆที่ทางโรงเรียนทำเริ่องขอมาทั้งหมด 29 เครื่องนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการโครงการ
ทีมผู้บริหารยืนยันให้ความช่วยเหลือ เยียวยาครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ซึ่งได้ลงพื้นที่พูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัว ซึ่งก็พอใจกับแผนการเยียวยาดังกล่าว
เบญจมาศ อักษรนิตย์ รายงาน